Last updated: 17 มิ.ย. 2559 | 5970 จำนวนผู้เข้าชม |
เมืองในฝันของใครหลายคน "เวนิส"
เวนิส หรือ เวเนเซีย (Venezia) เมืองที่ไม่เหมือนใครในโลกนี้ เพราะตัวเมืองตั้งอยู่กลางทะเลสาบริมฝั่งทะเลอาเดรียติกทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ในแคว้นเวเนโต โดยอาศัยสันคอนของเกาะเล็กๆ ที่มีอยู่ราว 30 เกาะ (มีพื้นที่รวมกันประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร) เป็นที่ตั้งของอาคารบ้านเรือนตึกรามบ้านช่อง โดยอาศัยเสาตอม่อที่ฝังลึกลงไปกลางน้ำเพื่อใช้เป็นฐานราก ว่ากันว่ามีมากนับล้านต้น ตัวเมืองก็มีแต่ลำคลองนับสายไม่ถ้วนกันเลยทีเดียว โดยจะมีสะพานน้อยใหญ่มากกว่า 400 สายที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อกันนั่นเองค่ะ
Premiumworldtour.com เชื่อเลยว่า "เมืองเวนิส" นั้น เป็นเมืองในฝันของใครหลายๆคน อาจเพราะเวนิสนั้นมีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้คนหลงรัก เป็นเมืองที่สวย และน้ำใสจริงๆ หลายๆท่านอาจจะเคยไปกับ ทัวร์ยุโรป มาแล้วบ้าง หรือบางท่านอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้าง ในโปรแกรม ทัวร์ยุโรป ซึ่งจะมีทั้งเน้นไปเที่ยวที่เวนิซอย่างเดียว และเที่ยวที่เมืองอื่นๆด้วย premiumworldtour.com อยากจะชวนคุณผู้อ่าน มาร่วม ทัวร์ยุโรป กรุ๊ปเน้นเที่ยวเมืองเวนิส ไปพร้อมกับเราเลยค่ะ ^^
เวนิส (Venice) เป็นเมืองแห่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่บนน้ำ ไม่มีรถราวิ่งบนถนน จะมีก็เพียงแต่เรือโดยสารวาปอเร็ตโต (Vaporetto) หรือเรือเมล์วิ่งแทนรถโดยสารประจำทาง มีบริการเรือข้ามฟาก รวมทั้งเรือกอนโดลา (Gondola) ไว้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อให้นั่งชมวิวทิวทัศน์ลัดเลาะไปตามลำคลองสายต่างๆ
เวนิสมีคลองใหญ่ไหลผ่านกลางเมืองมีชื่อเรียกว่า คานาเล่ กรันเด (Canale Grande) หรือแกรนด์คาแนล ลักษณะคล้ายตัว S กลับหลัง โดยเริ่มต้นจากสถานีรถไฟกลางผ่าน สะพานรีอัลโต สะพานอักคาเดเมียไปสิ้นสุดที่จัตุรัสซานมาร์โคอันเลื่องชื่อ และนั่นเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางมาเยือนที่เวนิส ระหว่างทางก็มีสถานที่ให้แวะเที่ยวชมนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะมองไปมุมไหน ก็ดูสวยจับใจไปหมด ก็คงไม่แปลกที่ใครหลายๆคนจะหลงรักเมืองนี้ และกลับมาเที่ยวอีกแน่นอน ..
และแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเวนิส ก็มีหลักๆอยู่ตามนี้ค่ะ
1.มหาวิหารซานมาร์โก้ (San Marco)
สถานที่ที่พลาดไม่ได้เลยจริงๆ ถ้ามากับ ทัวร์ยุโรป ก็คือ มหาวิหารซานมาร์โก้ โบสถ์สำคัญแห่งเมืองเวนิสที่เริ่มสร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ ค.ศ.823 ผสมผสานศิลปะของหลายยุคขึ้นไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ไบเซนไทน์ โรมาเนสก์ โกธิค จนถึงเรอเนสซองซ์ หลังคาของมหาวิหารซานมาร์โกสร้างแบบโดมสุเหร่าของศาสนาอิสลาม โดมกลางมีขนาดใหญ่ที่สุด ประดับโมเสกสีทองอร่ามตั้งแต่หลังคาจรดพื้น จึงได้รับสมญานามว่า “Church of Gold” มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 เลยทีเดียว
2.โบสถ์ซานตามาเรีย เดลลา ซาลูเต (Santa Maria Della Salute)
โบสถ์สไตล์บาโรกที่ตั้งอยู่บริเวณปากแกรนด์คาแนลทางด้านทิศใต้ สร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ.1631-1681 เพื่อเป็นการขอบคุณพระเจ้าหลังจากที่ชาวเวนิสผ่านพ้นวิกฤตการณ์จากโรคระบาดครั้งใหญ่ ภายในโบสถ์งดงามด้วยภาพเขียนและปะติมากรรมล้ำค่าหลายชิ้นค่ะ
3.พระราชวังดอจ (Palazzo Ducale)
พระราชวังดอจ เป็นพระราชวังสไตล์โกธิคของดยุคผู้ครองเมืองเวนิส ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ภายในพระราชวังประดับด้วยทองคำ และมีภาพจิตรกรรมมากมาย นอกจากความสวยงามโอ่อ่านี้ ชั้นใต้ดินของวัง ยังมีคุกขังนักโทษ ซึ่งถูกเชื่อมด้วยทางเดินแคบๆ ไปยังสะพานข้ามคลองสู่แดนคุมขัง สะพานแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า สะพานถอนหายใจ (Ponte dei Sospiri หรือ Bridge of Sighs) ตามอาการของนักโทษที่เดินข้ามสะพานและกำลังจะหมดอิสรภาพนั่นเอง
4.สะพานรีอัลโต (Ponte di Rialto)
อีกหนึ่งไฮไลท์ของเมืองที่นักท่องเที่ยวชอบไปกันมากค่ะ สะพานรีอัลโต เป็นหนึ่งในสะพานข้ามแกรนด์คาแนล ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปมากที่สุด ซึ่งอีก 2 สะพานที่มีชื่อเสียง คือ Accademia Bridge และ Scalzi Bridge ค่ะ เพราะสะพานแห่งนี้มีความเก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นครั้งแรกด้วยไม้ในปี ค.ศ.1181 เลยทีเดียว ต่อมาได้มีการรื้อ และสร้างใหม่ด้วยหินอย่างที่เห็นในปัจจุบันค่ะ นอกจากสะพานรีอัลโตจะเชื่อมระหว่างเกาะ San macro กับเกาะ San polo ของเวนิสด้วย
5.หอระฆังซานมาร์โก (Campanile di San Marco)
หอระฆังซานมาร์โก (Campanile di San Marco) เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในเวนิส นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปข้างบนเพื่อชมวิวของเมืองและลำน้ำได้ หอระฆังแห่งนี้เป็นที่ที่กาลิเลโอเคยทำการสาธิตกล้องส่องทางไกลของเขา เดิมทีหอนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ช่วยเหลือนักเดินเรือในตอนกลางคืน แต่ในยุคกลางกลับถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ อย่างไรก็ตาม หอระฆังแห่งนี้เคยพังทลายลงในปี ค.ศ. 1902 และได้รับการก่อสร้างขึ้นใหม่ โดยเสร็จสมบูรณ์ในปี 1912 เปิดให้ขึ้นไปชมวิวเมืองได้ทุกวัน โดยเวลาที่เปิดจะแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู
การเดินทางไปเวนิส
เดินทางโดยรถไฟ
- จากมิลาน นั่งรถไฟขบวน Eurostar City (ESI)จากสถานี Milano Centrale ถึงสถานี Venezia Santa Lucia ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 35 นาที
- จากฟลอเรนซ์ นั่งรถไฟขบวน ESI (FRECCIARGENTO) จากสถานี Firenze S.M.N ถึงสถานี Venezia Santa Lucia ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจะนั่งจากโบโลญญา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
เดินทางโดยเครื่องบิน
เครื่องบินภายในประเทศและเที่ยวบินนานาชาติที่จะไปลงที่สนามบินมาร์โค โปโล ซึ่งตั้งอยู่ห่างไปทางเหนือจากตัวเมืองราว 8 กิโลเมตร ริมทะเลบนแผ่นดินใหญ่ในเขตเตสเซรา
จากสนามบินมีเรือเฟอร์รี่ Alilaguna วิ่งตัดทะเลสาบมาส่งถึงท่าเรือใจกลางเมือง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที หรือจะนั่งรถเมล์ไปลงยัง ปิอัซซ่าเลโรม่า (Piazzale Roma) ใกล้ๆกับสถานีรถไฟซานตาลูเซียก็ได้ ใช้เวลาเดินทางราว 30 นาที จากตรงนี้สามารถโดยสารเรือเมล์ไปยังจุดหมายอื่นๆได้อย่างสะดวก เพราะเป็นต้นทางของเรือเมล์หลายสาย อีกทั้งมีที่พักให้เลิอกอยู่มากพอสมควร
ใครที่สนใจจะไปเที่ยวเวนิส ทางเราก็มีบริการ ทัวร์ยุโรป หรือสนใจเป็น ตั๋วเครื่องบิน ก็สามารถเช็คราคาตั๋วได้เองเลยค่ะ :)
12 ส.ค. 2558
20 ส.ค. 2558
19 เม.ย 2559
16 ส.ค. 2558